กรุงเทพมหานครขอประกาศให้ทราบว่า ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพมหานคร เป็นระบบขนส่งมวลชนสาธารณะที่กระทรวงมหาดไทยได้ให้สัมปทานแก่ บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) เป็นผู้จัดให้มีและประกอบการ เพื่อประโยชน์ของประชาชนโดยส่วนรวม ซึ่งประกอบด้วยบริการขนส่งมวลชนโดยรถไฟฟ้ารวมทั้งสิ่งอำนวยความสะดวกและบริการอื่นที่เกี่ยวข้องต่อเนื่องกับรถไฟฟ้า
ดังนั้น เพื่อความเรียบร้อยและความปลอดภัย ประชาชนผู้ใช้บริการจะต้องปฏิบัติตามข้อบังคับในการใช้ ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพมหานครที่บริษัทผู้รับสัมปทานกำหนด รวมทั้งต้องปฏิบัติให้ถูกต้องตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง มิฉะนั้นอาจมีความผิดและได้รับโทษตามกฎหมาย อาทิเช่นในเรื่องดังต่อไปนี้
-
ห้ามพกพาอาวุธหรือวัตถุอันตรายเข้าไปในบริเวณเขตของระบบฯ เว้นแต่เจ้าพนักงานที่มีอำนาจตามกฎหมาย ฝ่าฝืนต้องรับโทษตามประมวลกฎหมายอาญาและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
ห้ามขีด เขียน พ่นสี หรือทำให้ปรากฎด้วยประการใด ๆ ซึ่งข้อความ ภาพ แก่ตัวรถไฟฟ้า บริเวณสถานี บันไดทางขึ้นลง และบริเวณอื่นใดในเขตของระบบฯ ฝ่าฝืนปรับไม่เกิน 5,000.- บาท
ห้ามบ้วนหรือถ่มน้ำลาย เสมหะ น้ำหมาก สั่งน้ำมูก หรือทิ้งสิ่งใด ๆ ในรถไฟฟ้า บริเวณสถานี และบริเวณอื่นใดในเขตของระบบฯ ฝ่าฝืนปรับไม่เกิน 2,000.- บาท
ห้ามสูบบุหรี่ในบริเวณที่กำหนดเป็นเขตห้ามสูบบุหรี่ ฝ่าฝืนปรับไม่เกิน 2,000.- บาท
ห้ามนำหรือจูงสัตว์เข้าไปในบริเวณที่กำหนด และในรถไฟฟ้า เว้นแต่คนตาบอดที่ต้องใช้สุนัขนำทาง ฝ่าฝืนปรับไม่เกิน 500.- บาท
ห้ามจำหน่ายสินค้าหรือบริการในบริเวณเขตของระบบฯ และในรถไฟฟ้า เว้นแต่ได้ผู้ได้รับอนุญาตจากบริษัทผู้รับสัมปทาน ฝ่าฝืนปรับไม่เกิน 2,000.- บาท
ห้ามส่งเสียงดัง กระทำการอื้ออึง โดยไม่มีเหตุผลอันสมควร หรือทะเลาะวิวาท หรือกระทำการอื่นใด ให้เสียความสงบเรียบร้อยในบริเวณเขตของระบบฯ ฝ่าฝืนปรับไม่เกิน 500.- บาท
ห้ามเสพสุรา หรือของมึนเมาอย่างอื่น จนเป็นเหตุให้ประพฤติวุ่นวายหรือครองสติไม่ได้ในบริเวณเขตของระบบฯ ฝ่าฝืนปรับไม่เกิน 500.- บาท
ห้ามกระทำการอันน่าละอายหรือกระทำการลามกใด ๆ ในบริเวณเขตของระบบฯ และในรถไฟฟ้า ฝ่าฝืนปรับไม่เกิน 500.- บาท
ห้ามรังแก ข่มขู่ ข่มเหง หรือกระทำการใด ๆ ให้ผู้อื่นตกใจ หวาดกลัว อับอายหรือเดือดร้อนรำคาญ ในบริเวณเขตของระบบฯ ฝ่าฝืนจำคุกไม่เกิน 1 เดือน หรือปรับไม่เกิน 1,000.- บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ผู้โดยสารที่ไม่ได้รับความสะดวก หรือมีข้อเสนอแนะในการให้บริการ กรุณาแจ้งกองการขนส่ง สำนักการจราจรและขนส่ง กรุงเทพมหานคร โทร. 9103709-11 โทรสาร 9103711 หรือ ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ของกรุงเทพมหานคร โทร. 1555 หรือที่ Website: www.bma.go.th.
จึงประกาศมาให้ทราบโดยทั่วกัน
กรุงเทพมหานคร
ประกาศ ณ วันที่ 29 พฤศจิกายน 2542
อาศัยสิทธิตามข้อ 11.5 (ก) ของสัญญาสัมปทาน โดยความเห็นชอบของกรุงเทพมหานคร บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ออกข้อบังคับไว้ดังต่อไปนี้
-
ข้อ 1.
ข้อบังคับนี้ เรียกว่า “ข้อบังคับระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพมหานคร”
-
ข้อ 2.
ข้อบังคับนี้ ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 5 ธันวาคม 2542 เป็นต้นไป
-
ข้อ 3.
เว้นแต่จะมีข้อความระบุไว้เป็นอื่น ในข้อบังคับนี้ :
-
บริษัท หมายถึง บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) พนักงาน หมายถึง บุคคลที่ได้รับมอบหมายจากบริษัทให้มีอำนาจดำเนินการตามข้อบังคับ โดยมีบัตรประจำตัวพนักงาน ตามแบบที่บริษัทกำหนด ระบบ หมายถึง ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพมหานครและส่วนต่าง ๆ ของระบบ ซึ่งดำเนินการโดยบริษัท คนพิการ หมายถึง คนที่มีความผิดปกติ หรือความบกพร่องทางร่างกาย ซึ่งโดยสภาพความผิดปกติหรือความบกพร่อง ทางร่างกายทำให้จำเป็น ต้องใช้ลิฟท์ในการโดยสารเพื่อการเข้าใช้ระบบ เจ้าพนักงาน หมายถึง เจ้าพนักงานตำรวจ เจ้าหน้าที่เทศกิจ หรือพนักงานเจ้าหน้าที่อื่นของกรุงเทพมหานคร ที่ได้รับมอบหมายให้ปฏิบัติหน้าที่รักษาความสงบและความเป็นระเบียบเรียบร้อยในระบบ หรือตรวจตราให้เป็นไปตามสัญญาสัมปทาน ตั๋ว หมายถึง บัตร หรือใบผ่าน หรือใบอนุญาต ในรูปแบบใด ๆ ที่ออกโดยบริษัทหรือโดยบุคคลที่ได้รับมอบอำนาจโดยชอบจากบริษัทสำหรับการเดินทางกับระบบ ตั๋วพิเศษ หมายถึง ตั๋วที่ออกให้ในอัตราค่าโดยสารพิเศษหรือออกให้ตามเงื่อนไขพิเศษ สิทธิพิเศษหรือออกให้ภายใต้ข้อจำกัดตามที่กำหนดในเงื่อนไขการออกตั๋ว เงื่อนไขการออกตั๋ว หมายถึง เงื่อนไขการออกตั๋วสำหรับการเดินทางกับระบบ อัตราค่าโดยสาร ลักษณะของตั๋ว ที่ได้จัดพิมพ์เผยแพร่เป็นระยะ ๆ โดยบริษัท และปิดประกาศไว้ที่สถานีรถไฟฟ้าของบริษัท ห้องตั๋ว หมายถึง ห้องที่ดำเนินการโดยหรือดำเนินการในนามของบริษัทซึ่งได้รับมอบอำนาจโดยชอบในการออกตั๋ว และตั๋วพิเศษ ค่าโดยสาร หมายถึง ค่าโดยสารที่จ่ายโดยผู้โดยสารซึ่งได้มีตั๋วออกให้กับผู้โดยสาร หรือ ออกให้ในนามของผู้โดยสาร โดยตั๋วออกโดยบริษัทหรือออกในนามบริษัทสำหรับใช้ในการเดินทางกับระบบ เบี้ยปรับ หมายถึง จำนวนเงินที่ไม่เกินยี่สิบเท่าของอัตราค่าโดยสารสูงสุดของระบบ ในขณะที่ต้องจ่ายเบี้ยปรับตามที่ระบุในเงื่อนไขการออกตั๋ว ผู้โดยสาร หมายถึง บุคคลที่ได้รับตั๋วหรือมีตั๋วออกให้และเป็นผู้ที่อยู่ในเขตชำระเงินโดยชอบ เขตของระบบ หมายถึง ที่ดินและสิ่งปลูกสร้างในระบบที่บริษัทมีสิทธิใช้ และได้จัดไว้เป็นเขตชำระเงิน เขตไม่ได้ชำระเงิน และเขตหวงห้าม เขตชำระเงิน หมายถึง ส่วนของเขตของระบบที่ได้แยกออกสำหรับการใช้โดยผู้โดยสารที่ชำระค่าโดยสาร ซึ่งมีประตูเก็บตั๋ว และมีที่กั้นสำหรับการเข้าออก และให้รวมถึงรถไฟฟ้าในขณะให้บริการ เขตไม่ได้ชำระเงิน หมายถึง เขตพื้นที่ภายในสถานีที่อยู่ระหว่างที่สาธารณะกับเขตชำระเงิน เขตหวงห้าม หมายถึง เขตที่กำหนดโดยบริษัท ด้วยการประกาศด้วยป้าย หรือด้วยลักษณะอื่นอันมีเหตุผลเพียงพอที่จะทำให้เข้าใจได้ว่าเขตดังกล่าวเป็นเขตหวงห้าม และให้รวมถึงโรงจอดและซ่อมบำรุง โรงงานที่เก็บของ เขตบริหารงาน ห้องเครื่องยนต์และ แนวรางรถไฟฟ้า รถไฟฟ้า หมายถึง รถไฟฟ้า หรือตู้รถไฟฟ้าหรือส่วนประกอบรถไฟฟ้า ที่บริษัทเป็นเจ้าของ หรืออยู่ในความครอบครองของบริษัท
-
ข้อ 4.
ในกรณีที่มีเหตุจำเป็น บริษัทอาจเปิดหรือปิดทางเข้าหรือทางออกใด ๆ ภายในเขตของระบบได้ ทั้งนี้ บริษัทจะไม่รับผิดชอบต่อความเสียหายใด ๆ ที่เกิดขึ้นจากการเปิดหรือปิดทางเข้าหรือทางออกดังกล่าว
-
ข้อ 5.
พนักงานมีสิทธิใช้ดุลพินิจ ห้ามบุคคลหรือกลุ่มบุคคลที่มีลักษณะดังต่อไปนี้ เข้าหรืออยู่ในเขตของระบบ
(1)
บุคคลที่อยู่ในสภาพมึนเมา จากแอลกอฮอล์ ยาเสพติด หรือมีพฤติการณ์ที่แสดงความมึนเมาจากสาเหตุอื่นใด ในลักษณะที่อาจก่อให้เกิดอันตรายต่อตนเอง หรือต่อบุคคลอื่น
(2)
บุคคลที่พกพาอาวุธ หรือวัตถุอันตราย โดยไม่ใช่พนักงานเจ้าหน้าที่ตามกฎหมายที่จำต้องพกพาอาวุธ
(3)
บุคคลที่แต่งกายหรือใช้เสื้อผ้าที่สกปรก ซึ่งอาจทำให้เกิดความสกปรกหรือความเสียหายแก่เครื่องแต่งกาย หรือเสื้อผ้า หรือเครื่องใช้ส่วนตัวของบุคคลอื่นที่อยู่ในหรือบนเขตของระบบ หรือแก่ทรัพย์สินของระบบ
(4)
บุคคลหรือกลุ่มบุคคลที่มีพฤติการณ์ซึ่งอาจคาดหมายได้ว่าจะก่อให้เกิดอันตรายแก่บุคคลอื่นหรืออาจก่อให้เกิดอันตรายแก่ทรัพย์สินของบุคคลอื่นหรือแก่ทรัพย์สินของระบบ หรืออาจก่อเหตุวิวาทหรือก่อให้เกิดความเดือดร้อนรำคาญแก่บุคคลอื่น
(5)
เด็กที่จะเข้าหรืออยู่ในเขตของระบบโดยลำพัง ซึ่งพนักงานเห็นว่าเพื่อความปลอดภัยควรจะมีผู้ดูแลในระหว่างที่อยู่ในเขตของระบบ
-
ข้อ 6.
เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากบริษัท ห้ามบุคคลใด
(1)
เข้าอยู่ภายในส่วนใดส่วนหนึ่งของเขตของระบบ นอกจากส่วนที่ได้กำหนดไว้ชัดเจนด้วยประกาศ สิ่งบ่งชี้ หรือข้อชี้แนะอื่น ๆ ที่ให้ไว้กับบุคคลที่ใช้ หรือประสงค์จะใช้ระบบ หรือ
(2)
เข้าหรือออกจากเขตของระบบ โดยไม่ใช้ประตูหรือช่องปิดกั้น หรือใช้ช่องทางเข้าออกที่บริษัทได้จัดไว้
-
ข้อ 7.
บุคคลใดที่เข้ามายังเขตของระบบ และก่อให้เกิดความเสียหายใด ๆ ขึ้น จะต้องรับผิดชอบชดใช้ค่าสินไหมทดแทนความเสียหายให้แก่บริษัท
-
ข้อ 8.
ตั๋วทั้งหมดที่ออกโดยหรือออกในนามของบริษัท ได้ออกภายใต้ข้อบังคับนี้และตามเงื่อนไขการออกตั๋ว บุคคลใดที่ได้รับตั๋วหรือมีตั๋วโดยวิธีอื่นใดให้ถือว่าได้รับทราบและได้ตกลง ที่จะปฏิบัติตามข้อบังคับนี้และตามเงื่อนไขการออกตั๋ว
-
ข้อ 9.
ค่าโดยสารสำหรับการเดินทางกับระบบ จะเป็นไปตามอัตราค่าโดยสารที่บริษัทปิดประกาศที่สถานี
-
ข้อ 10.
บริษัทไม่ให้การรับรองว่า ผู้โดยสารจะได้เดินทางกับรถไฟฟ้าขบวนใดโดยเฉพาะเจาะจง หรือเวลาที่แน่นอนในการที่รถไฟฟ้าจะเข้าหรือออกจากสถานี และบริษัทจะไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสียหรือความเสียหายใด ๆ ที่เกิดจากความล่าช้าในการเดินทาง ไม่ว่าจะเกิดจากการเปลี่ยนแปลงการระงับ หรือการเพิกถอนบริการการเดินรถไฟฟ้าของบริษัท ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน
-
ข้อ 11.
บริษัทอาจระงับหรือหยุดการออกตั๋ว ไม่ว่าจะเป็นการออกตั๋วจากห้องตั๋ว หรือจากเครื่องจำหน่ายตั๋วอัตโนมัติ หรือระงับ หยุด หรือเพิกถอนการให้บริการการเดินรถไฟฟ้าของบริษัทได้ เมื่อมีเหตุอันสมควร เช่น เพื่อความปลอดภัยของระบบหรือความปลอดภัยของผู้โดยสาร ทั้งนี้บริษัทจะไม่รับผิดชอบต่อความเสียหายใด ๆ ที่เกิดขึ้น จากการกระทำดังกล่าว
-
ข้อ 12.
ห้ามบุคคลใดเข้าออกหรือเดินทาง หรือพยายามที่จะเข้าออกเขตของระบบหรือเดินทางไปกับรถไฟฟ้า นอกจากตามที่ได้กำหนดไว้ในเงื่อนไขการออกตั๋ว
-
ข้อ 13
ผู้โดยสารทุกคนจะต้องออกจากเขตชำระเงินภายในระยะเวลาที่ระบุในเงื่อนไขการออกตั๋ว ในกรณีที่ไม่มีข้อแก้ตัวที่มีเหตุผลเพียงพอสำหรับการคงอยู่ในเขตชำระเงินเมื่อหมดเวลาตามที่กำหนดไว้แล้ว ผู้โดยสารจะต้องจ่ายค่าโดยสารสูงสุดสำหรับการเดินทางเที่ยวเดียวตามที่ระบุในเงื่อนไขการออกตั๋ว
-
ข้อ 14.
ห้ามบุคคลใดที่ไม่มีอำนาจโดยชอบ หรือไม่มีข้อแก้ตัวที่มีเหตุผลเพียงพอเข้าหรือไปจาก หรือพยายามเข้าหรือไปจากเขตชำระเงินโดยไม่ได้ชำระค่าโดยสาร หรือโดยไม่มีตั๋วที่ถูกต้องตามสถานการณ์อันเหมาะสมสำหรับการเดินทางซึ่งจะใช้ ตั๋วสอดเข้าประตูอัตโนมัติตามที่กำหนดไว้ในเงื่อนไขการออกตั๋ว เพื่อการเข้าหรือออกจากเขตชำระเงิน หรือแสดงและส่งมอบตั๋วให้กับพนักงาน
-
ข้อ 15.
ห้ามบุคคลใด ที่ไม่ได้ชำระเงินค่าโดยสาร หรือชำระค่าโดยสารไม่ครบถ้วน ออกจากเขตก่อนที่จะได้ชำระค่าโดยสาร หรือเบี้ยปรับหรือเงินอื่นใดที่บริษัท มีสิทธิเรียกเก็บได้ตามข้อบังคับนี้
-
ข้อ 16.
บุคคลใดอยู่ภายในเขตชำระเงิน
(1)
โดยไม่มีตั๋ว
(2)
โดยมีตั๋วที่เสียหาย แก้ไขหรือดัดแปลงอย่างไม่เหมาะสม หรือตั๋วที่มีมูลรหัสถูกแก้ไข ลบออกหรือทำให้เสียหายแล้วอย่างไม่เหมาะสมไม่ว่าทั้งหมดหรือเป็นบางส่วน
(3)
โดยมีตั๋วที่หมดอายุแล้ว ตามที่ระบุไว้ในเงื่อนไขการออกตั๋ว หรือ
(4)
โดยมีตั๋วพิเศษ แต่ไม่มีคุณสมบัติตรงตามเงื่อนไขใด ๆ สำหรับการออกตั๋วพิเศษนั้น จะถือว่าไม่ได้ชำระค่าโดยสาร และจะต้องรับผิดชอบจ่ายเบี้ยปรับและส่งคืนตั๋ว (ถ้ามี) ให้กับพนักงาน เว้นแต่บุคคลที่ได้รับยกเว้น การชำระค่าโดยสาร คือ คนพิการ เด็กที่มีความสูงไม่เกิน 90 เซนติเมตร หรือเจ้าพนักงานที่อยู่ในระหว่างการปฏิบัติหน้าที่
-
ข้อ 17.
บุคคลใดที่ได้จ่ายเบี้ยปรับ หรือส่งมอบตั๋วให้กับพนักงาน ตามข้อบังคับนี้ มีสิทธิยื่นหนังสือถึงบริษัท ให้ทบทวนสภาพการณ์ที่เขาต้องรับผิดจ่ายเบี้ยปรับ หรือส่งมอบตั๋ว และเมื่อบริษัทได้พิจารณาข้อเท็จจริงและได้ผลสรุปแล้ว อาจมีคำสั่งปฏิเสธคำขอทบทวนของบุคคลดังกล่าวหรืออาจสั่ง ให้จ่ายคืนเบี้ยปรับทั้งหมดหรือเป็นบางส่วน หรือจ่ายคืนเงินตามมูลค่าที่เหลือของตั๋ว แล้วแต่กรณี ทั้งนี้ให้ถือว่าผลการตัดสินดังกล่าวเป็นที่สุด
-
ข้อ 18.
ผู้โดยสารใดที่มีตั๋วแต่เดินทางไกลกว่าสถานีที่ตั๋วมีผลบังคับใช้ ต้องรับผิดชอบจ่ายค่าโดยสารส่วนเกินตามที่ระบุในเงื่อนไขการออกตั๋ว
-
ข้อ 19.
บุคคลที่ซื้อตั๋ว ควรตรวจสอบตั๋วและเงินทอนที่ได้รับก่อนไปจากห้องตั๋ว หรือเครื่องจำหน่ายตั๋วอัตโนมัติ บริษัทจะไม่รับผิดชอบต่อความผิดพลาดหรือการขาดตกบกพร่องที่ไม่ได้แจ้งไว้ในขณะที่ออกตั๋ว
-
ข้อ 20.
บุคคลที่ใช้เครื่องจำหน่ายตั๋วอัตโนมัติ ต้องหยอดเงินเหรียญที่เป็นเงินตราของประเทศไทยและใช้ชำระหนี้ได้ในขณะนั้นตามที่ระบุไว้บนเครื่องจำหน่ายตั๋ว โดยเหรียญที่หยอดดังกล่าวจะต้องมีจำนวนที่ไม่น้อยกว่าค่าโดยสารที่บริษัทกำหนด สำหรับการเดินทางในแต่ละระยะทาง (เครื่องจำหน่ายตั๋ว โดยปกติจะให้เงินทอนแต่อาจขาดแคลนเหรียญที่เหมาะสม ซึ่งในกรณีนี้เครื่องจะแสดงข้อความว่าไม่มีเงินทอนให้ เงินทอนที่ต้องจ่ายจะรวมจ่ายให้กับผู้ซื้อตั๋วคนต่อไป)
-
ข้อ 21.
ห้ามบุคคลใดสอดใส่หรือพยายามสอดใส่เครื่องจำหน่ายตั๋วอัตโนมัติ หรือเครื่องแลกเหรียญใด ๆ ด้วยเหรียญ วัตถุ หรือสิ่งอื่นใด นอกเหนือจากเงินเหรียญ ที่เป็นเงินตราของประเทศไทย ตามที่ระบุไว้บนเครื่อง
-
ข้อ 22.
จำนวนเงิน (รวมทั้ง จำนวนเงินติดลบ) ที่บันทึกเป็นรหัสไว้เป็นระยะ ๆ บนตั๋ว จะถือเป็นหลักฐานเด็ดขาดสำหรับจำนวนเงินที่ได้จ่ายในตั๋วนั้นและสำหรับมูลค่าที่เหลืออยู่ในตั๋วนั้น (ถ้ามี)
-
ข้อ 23.
ผู้โดยสารใดที่ถือตั๋วพิเศษ ถ้าพนักงานร้องขอ ต้องแสดงหลักฐานยืนยันสิทธิการถือตั๋วพิเศษ ที่ยอมรับได้อย่างเป็นทางการ
-
ข้อ 24.
นอกจากที่ระบุไว้ในเงื่อนไขการออกตั๋ว ตั๋วทั้งหมดจะคงเป็นทรัพย์สินของบริษัทและในกรณีที่ไม่มีข้อแก้ตัวที่สมเหตุสมผลห้ามบุคคลใดปฏิเสธที่จะส่งมอบตั๋วให้กับบริษัท เมื่อจะออกจากเขตชำระเงิน
-
ข้อ 25.
ผู้โดยสารในเขตชำระเงินต้องแสดงตั๋วเพื่อการตรวจสอบ ตามที่ได้รับคำร้องขอจากพนักงาน บุคคลใดที่ฝ่าฝืนข้อกำหนดตามวรรคก่อน ให้ถือว่าไม่ได้ชำระค่าโดยสาร และต้องรับผิดชอบในการจ่ายเบี้ยปรับ
-
ข้อ 26.
ห้ามบุคคลใดทำการใด ๆ กับตั๋วซึ่งเป็นผลให้ข้อมูลรหัสบนตั๋วถูกลบทิ้งทั้งหมดหรือเป็นบางส่วน หรือถูกเปลี่ยนแปลงหรือดัดแปลงหรือตั๋วถูกทำให้เสียหายโดยวิธีการอื่น
-
ข้อ 27.
ห้ามบุคคลใดใช้ หรือพยายามใช้ตั๋วที่ถูกเปลี่ยนแปลง ทำให้เสียหายหรือถูกดัดแปลงสำหรับการเข้าหรือออกจากเขตชำระเงินหรือเดินทางในระบบ
-
ข้อ 28.
ตั๋วอาจใช้แลกเงินคืนหรือใช้แลกเปลี่ยนได้ ตามเงื่อนไขและรูปแบบที่บริษัทหรือตัวแทนของบริษัทกำหนด โดยบริษัทมีสิทธิหักค่าใช้จ่ายในด้านบริหารตามที่ระบุในเงื่อนไขการออกตั๋วได้
-
ข้อ 29.
บริษัทจะไม่รับผิดชอบออกตั๋วทดแทนตั๋วที่หายหรือตั๋วที่ยังไม่ได้ใช้ และจะไม่รับผิดชอบคืนเงินสำหรับตั๋วที่สูญหาย หรือตั๋วที่ยังไม่ได้ใช้หรือสำหรับเบี้ยปรับที่เก็บจากผู้โดยสาร ตามข้อบังคับนี้
-
ข้อ 30.
บุคคลใด ๆ ในขณะที่อยู่ในเขตของระบบ ต้องปฏิบัติตามข้อบังคับ ประกาศ ระเบียบ และข้อชี้แนะต่าง ๆ ที่บริษัท ได้กำหนดขึ้นหรือที่จะได้กำหนดขึ้นต่อไปในอนาคต รวมทั้งต้องปฏิบัติตามคำแนะนำและหรือคำร้องขอ ที่สมเหตุผลของพนักงาน
-
ข้อ 31.
ห้ามบุคคลใด วางเท้าบนที่นั่งในรถไฟฟ้า
-
ข้อ 32.
ห้ามบุคคลใดสูบบุหรี่ ในพื้นที่ที่กำหนดให้เป็นเขตห้ามสูบบุหรี่
-
ข้อ 33.
ห้ามบุคคลใดถ่มน้ำลาย หรือทิ้งสิ่งปฏิกูล หรือขยะมูลฝอย ลงในส่วนต่าง ๆ ของเขตของระบบ เว้นแต่จะเป็นการทิ้งลงในถังขยะที่จัดไว้ให้ และห้ามทิ้งหรือขว้างสิ่งปฏิกูล ขยะมูลฝอย หรือสิ่งของอื่นใดลงหรือออกจากเขตของระบบ
-
ข้อ 34.
ห้ามบุคคลใดนำสิ่งสกปรก สิ่งปฏิกูล หรือวัสดุที่น่ารังเกียจ เข้ามาไว้ในเขตของระบบ
-
ข้อ 35.
ห้ามบุคคลใด ในขณะที่อยู่บนรถไฟฟ้า หรือในส่วนใด ๆ ของเขตของระบบ ส่งเสียงดัง ไม่ว่าจะโดยการเปิดวิทยุ เทป เปิดโทรทัศน์ หรือใช้อุปกรณ์อื่นใดที่ก่อให้เกิดเสียงดัง หรือประพฤติตนในลักษณะที่ก่อความรบกวนหรือความรำคาญให้กับผู้โดยสารหรือบุคคลอื่น
-
ข้อ 36.
เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากบริษัท ห้ามบุคคลใดแสดงการละเล่น หรือแสดงดนตรี ในส่วนใด ๆ ของเขตของระบบ
-
ข้อ 37.
ห้ามบุคคลใด นำกระเป๋า ของใช้ หรือสิ่งของใด ๆ ที่มีขนาดใหญ่หรือมีน้ำหนักมากจนไม่สามารถที่จะถือไว้ได้ขึ้นบนรถไฟฟ้าหรือนำเข้ามาไว้ในเขตของระบบ ซึ่งอาจก่อความเสียหายแก่ทรัพย์สินของระบบ หรือก่อความรบกวนหรือความไม่สะดวกแก่บุคคลอื่นที่ใช้ระบบ
-
ข้อ 38.
ห้ามบริโภคอาหาร หรือเครื่องดื่มใด ๆ (ไม่ว่ามีแอลกอฮอล์หรือไม่ก็ตาม) ในรถไฟฟ้าหรือในเขตชำระเงิน
-
ข้อ 39.
ห้ามบุคคลใด นำสิ่งของที่มีกลิ่นเหม็น หรือกลิ่นน่ารังเกียจ ขึ้นบนรถไฟฟ้า หรือนำมาไว้ในเขตของระบบ
-
ข้อ 40.
เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากบริษัท ห้ามบุคคลใดนำสัตว์ขึ้นบนรถไฟฟ้าหรือนำเข้ามาไว้ในเขตของระบบ (ข้อห้ามนี้ไม่ใช้กับสุนัขนำทางที่มากับคนตาบอด)
-
ข้อ 41.
เว้นแต่พนักงาน ห้ามบุคคลใด
(1)
ใช้ เคลื่อนย้าย หรือใช้งานเครื่องใช้จักรกลหรือเครื่องใช้ไฟฟ้าบนเขตของระบบ หรือใช้สวิทช์ คันโยก หรืออุปกรณ์อื่นใดที่ใช้ทำงานหรือควบคุมเครื่องใช้จักรกลหรือเครื่องใช้ไฟฟ้าบนเขตของระบบ เว้นแต่เป็นการใช้ประตูอัตโนมัติ และโทรศัพท์อย่างเหมาะสม
(2)
ยุ่งเกี่ยวหรือขัดขวาง หรือรบกวนการทำงานของเครื่องจักรกลหรือเครื่องใช้ไฟฟ้าใด ๆ
(3)
ขั้นหรือลงหรือพยายามขึ้นหรือลงโดยทางบันไดเลื่อนในลักษณะและในลำดับขั้นตอนที่ต่างจากที่ได้ชี้แนะไว้โดยบริษัท
(4)
เดินทางหรือพยายามเดินทางบนบันไดเลื่อนหรือทางเลื่อนใด ๆ ในทิศทางที่ต่างจากทิศทางที่เคลื่อนที่อยู่
(5)
นั่งบนบันไดเลื่อน หรือทางเลื่อนใด ๆ หรือนั่งบนราวมือจับในส่วนใด ๆ ของบันไดเลื่อนหรือทางเลื่อน
(6)
เปิดหรือพยายามเปิดประตูทางเข้าออกหรือประตูกั้นทางที่จะไปยังหรือไปจากชานชาลา หรือเขตชำระเงินที่สถานี บนเขตของระบบโดยไม่ได้รับอนุญาต หรือ
(7)
ถือหรือครอบครองกุญแจของประตูหรือประตูทางเข้าออกใด ๆ ภายในเขตของระบบ และต้องคืนให้กับพนักงาน หรือบริษัททันทีที่กุญแจได้อยู่ในความครอบครอง
-
ข้อ 42.
ห้ามบุคคลใดใช้ ทำให้เสียหาย หรือกระทำการอื่นใดอันเป็นการก่อกวน หรือขัดขวาง หรือรบกวนการทำงาน ต่อสิ่งดังต่อไปนี้
(1)
เครื่องจักร หรืออุปกรณ์ใด ๆ ที่อยู่ภายในเขตของระบบ
(2)
หัวรถจักร รถไฟฟ้า ตู้รถไฟฟ้า รถบรรทุกหรือเครื่องลำเลียงหรืออุปกรณ์อื่นใดที่อยู่ภายในเขตของระบบ
(3)
รถบรรทุก รางรถไฟฟ้า และระบบสนับสนุนใด ๆ รวมทั้งเครื่องยึดตรึง สิ่งที่ใช้ประกอบติดตั้งแผ่นฐาน หรือ ฐานเสา
-
ข้อ 43.
ห้ามบุคคลใดใช้อุปกรณ์ฉุกเฉินหรืออุปกรณ์เพื่อความปลอดภัย หรืออุปกรณ์อื่นใด ในเขตของระบบ เว้นแต่เมื่อมีเหตุฉุกเฉินหรือเมื่อได้รับอนุญาตจากบริษัท ทั้งนี้ วิธีการใช้อุปกรณ์ดังกล่าวจะต้องเป็นไปตามข้อแนะนำการใช้ที่ระบุไว้บนอุปกรณ์นั้นด้วย
-
ข้อ 44.
ห้ามบุคคลใดปีน นั่งบน กระโดดขึ้นบน หรือกระโดดข้ามกำแพง รั้ว สิ่งกีดขวางประตู (รวมทั้งประตูอัตโนมัติ) ในส่วนใด ๆ ของเขตของระบบ
-
ข้อ 45.
ห้ามบุคคลใดส่งสิ่งของ หรือสินค้า ผ่านเข้าออกระหว่างเขตชำระเงิน กับเขตไม่ได้ชำระเงิน ไม่ว่าจะเป็นการส่งสิ่งของ หรือสินค้าผ่านข้ามประตูกั้น หรือ ผ่านช่องใด ๆ โดยที่ผู้ส่งสิ่งของอยู่ในเขตชำระเงิน หรือเขตไม่ได้ชำระเงินและส่งสิ่งของหรือสินค้าให้แก่ผู้รับซึ่งอยู่ในเขตตรงข้าม โดยไม่ได้เดินผ่านประตูที่กั้นระหว่างเขตชำระเงิน กับเขตไม่ได้ชำระเงิน ทั้งนี้ยกเว้นกรณีที่บุคคลเป็นผู้ถือสิ่งของหรือสินค้า เดินผ่านเข้าออกประตูที่กั้นระหว่างเขตทั้งสองดังกล่าว ด้วยตนเอง
-
ข้อ 46.
ห้ามบุคคลใด เข้าหรืออยู่ในเขตหวงห้าม เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากบริษัท
-
ข้อ 47.
บุคคลใดก็ตาม จะต้อง
(1)
เข้าหรือออกจากรถไฟฟ้าโดยผ่านประตูรถไฟฟ้า
(2)
รอรถไฟฟ้าที่ชานชาลาของสถานี ในบริเวณที่กำหนดไว้
(3)
เข้าหรือออกจากรถไฟฟ้าที่ชานชาลาของสถานี
(4)
ไม่เข้าหรือออกจากรถไฟฟ้า ในขณะที่ประตูรถไฟฟ้ากำลังจะปิด ทั้งนี้ ให้เป็นไปตามลักษณะอันสมควร ที่พนักงานกำหนดไว้
-
ข้อ 48.
เมื่อพนักงานเห็นว่ารถไฟฟ้าหรือส่วนใดของรถไฟฟ้า ได้บรรทุกน้ำหนักเกินกว่าที่กำหนดไว้ พนักงานมีสิทธิสั่งห้ามบรรทุกบุคคล หรือสิ่งของสัมภาระเพิ่มเติม รวมทั้งมีสิทธิสั่งให้ผู้โดยสารลงจากรถไฟฟ้า หรือนำสิ่งของสัมภาระบางส่วนออกจากรถไฟฟ้า เพื่อรักษาน้ำหนักบรรทุกในการเดินทางเที่ยวนั้นได้
-
ข้อ 49.
ห้ามบุคคลใด ในขณะใด ๆ ที่อยู่บนเขตของระบบ
(1)
ระบายสี พ่นสี เขียน วาด หรือติดสติกเกอร์ หรือภาพใด ๆ ไม่ว่าจะโดยเจตนาหรือไม่ก็ตามทำให้เกิดความสกปรกหรือความเปรอะเปื้อนหรือทำประการใด ๆ ให้เกิดความเสียหายแก่ทรัพย์สินของระบบ เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากบริษัท
(2)
ใช้อุปกรณ์บันทึกเสียง หรือบันทึกวีดีโอ หรือกล้องถ่ายรูป หรือเครื่องมืออื่นใดที่ใช้บันทึกภาพหรือเสียงในการสัมภาษณ์หรือถ่ายภาพ หรือทำฟิล์ม ภาพถ่าย หรือวีดีโอซึ่งมีวัตถุประสงค์ทางการค้า เว้นแต่ได้รับอนุญาตล่วงหน้าเป็นลายลักษณ์อักษรจากบริษัท โดยต้องทำตามเงื่อนไขที่บริษัทกำหนด
-
ข้อ 50.
ห้ามบุคคลใด ประกอบการให้บริการขนกระเป๋าเดินทางในเขตของระบบ เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากบริษัท
-
ข้อ 51.
ห้ามบุคคลใดร้องขอบริจาคทาน หรือผลประโยชน์ในรูปแบบใด ๆ บนเขตของระบบ
-
ข้อ 52.
เว้นแต่จะได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจากบริษัท ห้ามบุคคลใด จำหน่ายหรือนำออกแสดงหรือเสนอเพื่อการจำหน่ายสินค้า เครื่องใช้หรือบริการใด ๆ ในเขตของระบบ รวมทั้งการประกอบการขนส่งสินค้าหรือเอกสาร หรือสิ่งของอื่นใด โดยอาศัยรถไฟฟ้าเป็นพาหนะในการขนส่ง
-
ข้อ 53.
ห้ามบุคคลใด เข้าอยู่ในเขตของระบบเป็นเวลานานเกินสมควร รวมทั้งห้ามใช้เขตของระบบเป็นที่อยู่อาศัยหรือที่นอน
-
ข้อ 54.
เว้นแต่จะได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจากบริษัท ห้ามบุคคลใด
(1)
ปิดป้ายโฆษณา ติดรูปภาพหรือข้อความอื่นใด ระบายสี หรือ เขียน หรือ ก่อให้เกิดการกระทำดังกล่าว ซึ่งป้ายประกาศ แผ่นโฆษณา หรือ สิ่งพิมพ์อื่น ๆ ลงบนรถไฟฟ้าหรือเขตของระบบ หรือ
(2)
แจกหนังสือ แผ่นปลิว สิ่งพิมพ์ ตัวอย่างสินค้า หรือสิ่งของอื่นใด บนรถไฟฟ้า หรือส่วนใด ๆ ของเขตของระบบ
-
ข้อ 55.
ห้ามบุคคลที่มิใช่พนักงานเจ้าหน้าที่ตามกฎหมายที่ได้รับอนุญาตให้พกพาอาวุธ ถือหรือมีอาวุธหรือกระสุนปืนไว้กับตัวบนรถไฟฟ้าหรือในเขตของระบบ
-
ข้อ 56.
ห้ามบุคคลใด พกพา หรือนำพาวัตถุระเบิด หรืออาวุธอื่นใด เช่น ของมีคม หรือของที่อาจใช้เป็นอาวุธและอาจก่อให้เกิดอันตรายแก่ร่างกายชีวิตหรือทรัพย์สิน เข้ามายัง หรือนำไปเก็บไว้ในบริเวณใด ๆ ของรถไฟฟ้าหรือเขตของระบบ
-
ข้อ 57.
ห้ามบุคคลใดนำสิ่งของหรือวัตถุอันตรายอื่นใด ที่อยู่ในบังคับของบทบัญญัติกฎหมายว่าด้วยสินค้าหรือวัตถุอันตราย เข้ามายังหรือนำไปเก็บไว้ในส่วนใด ๆ ของเขตของระบบ เว้นแต่พนักงานที่ได้รับมอบหมายจากบริษัท
-
ข้อ 58.
ในกรณีที่พนักงานตรวจพบการพกพา หรือนำมาซึ่งวัตถุต้องห้ามตามที่ระบุไว้ในข้อ 55 ข้อ 56 และข้อ 57 โดยไม่ได้รับอนุญาต พนักงานมีสิทธิที่จะขอให้บุคคลผู้พกพา หรือนำมาซึ่งวัตถุต้องห้าม ส่งมอบวัตถุดังกล่าวให้แก่พนักงานเพื่อนำส่งให้แก่พนักงานเจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจตามกฎหมาย และในกรณีที่บุคคลดังกล่าวไม่ยอมส่งมอบวัตถุต้องห้าม พนักงานมีสิทธิให้บุคคลนั้นออกจากรถไฟฟ้า หรือเขตของระบบ ได้ทันที
-
ข้อ 59.
บุคคลใดพบหรือเก็บได้ซึ่งทรัพย์สินหายไม่ว่าจะเก็บได้ในบริเวณหรือบนส่วนใด ๆ ของเขตของระบบ ต้องรายงานต่อพนักงานในสถานีที่ใกล้เคียงที่สุด หรือพนักงานเจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจตามกฎหมาย และห้ามบุคคลใดนอกเหนือจากพนักงานหรือพนักงานเจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจตามกฎหมายทำการเคลื่อนย้ายทรัพย์สินดังกล่าวออกจากบริเวณที่พบ เว้นแต่จะเป็นความประสงค์ที่จะนำทรัพย์สินนั้นส่งมอบให้กับพนักงาน หรือพนักงานเจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจตามกฎหมายดังกล่าวโดยตรง
-
ข้อ 60.
บริษัทมีสิทธิดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่ง ดังต่อไปนี้ ต่อทรัพย์สินที่สูญหาย ซึ่งอยู่ในความครอบครองของบริษัท
(1)
ในกรณีที่ทรัพย์สินนั้นเป็นเอกสาร เช่น เอกสารส่วนบุคคล เอกสารเดินทาง หนังสือรับรองหรือเอกสารอื่นใด ซึ่งบริษัท ถือเป็นสิ่งสำคัญหรือเป็นความลับ บริษัทจะแจ้งไปยังเจ้าของเอกสารตามที่ระบุไว้ในเอกสารนั้น หรืออาจส่งมอบเอกสารดังกล่าวให้แก่พนักงานเจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจตามกฎหมาย เพื่อการติดตามหาเจ้าของต่อไป
(2)
ในกรณีที่ทรัพย์สินนั้นเป็นสิ่งของอื่นนอกเหนือจากกรณีตามข้อ (1) บริษัทจะส่งมอบสิ่งของดังกล่าวให้แก่พนักงานเจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจตามกฎหมาย เพื่อติดตามหาเจ้าของต่อไป
-
ข้อ 61.
บริษัทจะไม่รับผิดชอบต่อบุคคลใด สำหรับทรัพย์สินที่สูญหายในเขตของระบบ และในกรณีที่บริษัทเก็บทรัพย์สินที่สูญหายไว้ บริษัทก็ไม่อยู่ในฐานะของผู้รับฝากสินค้า
-
ข้อ 62.
พนักงานอาจขอให้บุคคลที่ตนสงสัยว่ากระทำการ หรือพยายามกระทำการละเมิดข้อบังคับนี้ แสดงหลักฐานประจำตัวเพื่อการตรวจสอบได้
-
ข้อ 63.
พนักงานมีอำนาจให้บุคคลใด ๆ ที่ตนสงสัยโดยมีเหตุอันสมควรว่าได้กระทำการ หรือพยายามกระทำการละเมิดข้อบังคับนี้ออกจากรถไฟฟ้าหรือเขตของระบบ ได้ทันที
-
ข้อ 64.
บุคคลที่ละเมิด หรือฝ่าฝืนข้อบังคับในหมวดที่ 3 อันเกี่ยวกับตั๋ว ค่าโดยสาร และการจัดเก็บค่าโดยสาร จะต้องชำระเบี้ยปรับ ค่าโดยสารหรือเงินอื่นใดที่ต้องชำระตามข้อบังคับนี้ให้แก่บริษัท
-
ข้อ 65.
บริษัทมีสิทธิดำเนินการให้บุคคลที่ละเมิด หรือฝ่าฝืนข้อบังคับนี้ ออกจากเขตของระบบได้ หากการละเมิดหรือฝ่าฝืนข้อบังคับนี้ เป็นการกระทำความผิดตามกฎหมาย บุคคลที่ละเมิดหรือฝ่าฝืนนั้น จะต้องรับผิดและรับโทษตามอัตราที่กฎหมายกำหนด ในขณะที่ความผิดเกิดขึ้นด้วย
-
ข้อ 66.
การที่บริษัทใช้สิทธิเรียกร้อง หรือบังคับการอย่างใด ๆ ตามที่ระบุไว้ในข้อบังคับนี้ ต่อผู้ที่ละเมิดหรือฝ่าฝืนข้อบังคับ ไม่ถือเป็นการตัดสิทธิบริษัทที่จะฟ้องร้อง หรือดำเนินการอื่นใดตามกฎหมาย ต่อบุคคลดังกล่าว เพื่อบรรเทาหรือชดเชยความเสียหายของบริษัท
-
ข้อ 67.
บริษัท จะไม่รับผิดชอบในความเสียหายใด ที่เกิดขึ้นแก่บุคคลที่ละเมิดหรือฝ่าฝืนข้อบังคับนี้
-
ข้อ 68.
บริษัท หรือตัวแทนตามกฎหมายของบริษัท มีสิทธิเรียกให้บุคคลใด ๆ ชำระเงินจำนวนใด ๆ ที่บริษัทมีสิทธิได้รับตามข้อบังคับนี้ (รวมทั้งค่าโดยสาร ค่าโดยสารส่วนเกิน หรือเบี้ยปรับ) ไม่ว่าจะเป็นหนี้ ค่าเสียหาย ค่าใช้จ่าย หรือเงินอื่นใดโดยให้ถือปฏิบัติเช่นเดียวกับหนี้ที่ครบกำหนดชำระเมื่อทวงถามและจะมีผลบังคับเป็นหนี้ทางแพ่ง
-
ข้อ 69.
บุคคลใดที่มีตั๋วเพื่อการเดินทาง ให้ถือเป็นข้อยุติว่าบุคคลนั้นยอมรับข้อจำกัดหรือข้อยกเว้นความรับผิดของบริษัท ตามที่ระบุไว้ในข้อบังคับนี้ และให้ข้อจำกัด หรือยกเว้นความรับผิดดังกล่าว ครอบคลุมถึงพนักงาน หรือตัวแทนของบริษัท ด้วย
-
ข้อ 70.
ภายใต้ข้อบังคับแห่งสัญญาสัมปทาน บริษัทสงวนสิทธิที่จะแก้ไข เปลี่ยนแปลง หรือยกเลิก ส่วนใดส่วนหนึ่งของข้อบังคับนี้ โดยบริษัทจะประกาศแจ้งให้ทราบถึงการเปลี่ยนแปลง แก้ไข หรือยกเลิก ดังกล่าวเป็นคราว ๆ ไป